ท่อเหล็กเหนียวที่ใช้ในงานประปาของการประปาส่วนภูมิภาคนั้นจะใช้ตาม มอก. 427 “ท่อเหล็กกล้าเชื่อมด้วยไฟฟ้าสำหรับส่งน้ำ” ชั้น คุณภาพ ข. หรือ ค. มีคุณสมบัติทนแรงดันได้ไม่น้อยกว่า 10 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร ขนาดและมิติที่ใช้มีดังนี้
"ประปาซิตี้" เป็นแหล่งให้ความรู้เกี่ยวกับ งานประปา , น้ำดื่ม , น้ำใช้ , การผลิตน้ำประปา , วิธีการก่อสร้าง , ท่อPVC , ท่อ HDPE , ท่อ PB , ท่อเหล็กเหนียว , เหล็กหล่อ , อุปกรณ์ท่อ , และอื่นๆเกี่ยวกับประปา รวมทั้ง คลิปวีดีโอ ดาวโหลดฟรี
วันอังคารที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2567
มาตรฐานท่อเหล็กเหนียว(Steel Pipe)
วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2567
Combination Air Valve
วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2567
การต่อท่อ HDPE แบบ Electro Fusion
ข้อดีของการต่อท่อด้วยวิธี Electro Fusion
1.ใช้งานง่ายในพื้นที่แคบๆ เช่น ย่านชุมชน
2. เคลื่อนย้ายสะดวก เนื่องจากมีน้ำหนักเบา
3. สะดวกในการใช้งานเนื่องจากใช้แหล่งจ่ายไฟกระแสสลับ220 v
4. เหมาะสำหรับในงานซ่อมท่อ
วันเสาร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2567
รายงานการเชื่อมท่อ HDPE DATA LOGGER
วันศุกร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2567
วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2567
การต่อท่อพีวีซีชนิดต่อด้วยแหวนยาง
2. จับแหวนยางให้เป็นรูปหัวใจแล้วสอดเข้าไปในข้อต่อแหวนยางในทิศทางปลายคีบของแหวนยางลู่เข้าไปในท่อ ปล่อยมือแล้วจัดแหวนยางให้นั่งในร่องแหวนยางให้แนบสนิท
3. ทำเครื่องหมายแสดงความลึกของการสอดท่อ โดยใช้ปากกาเคมี โดยทั่วไปทางโรงงานผลิตท่อจะทำเครื่องหมายมาให้ด้วย ยกเว้นกรณีตัดท่อหน้างานเราต้องทำเครื่องหมายใหม่
4. กรณีตัดท่อหน้างาน ให้ลบมุมคมของท่อประมาณ 15 องศา โดยใช้ตะไบหรือเครื่องเจีย เพื่อป้องกันการปลิ้นของแหวนยาง
5. ทาน้ำยาหล่อลื่นแหวนยางบริเวณส่วนที่ลบมุมคมของท่อและตัวของแหวนยางที่นั่งในร่องแหวนยางแล้วให้ทั่วเสมอ
6. สวมปลายท่อที่ทาน้ำยาหล่อลื่นแหวนยางไว้แล้วเข้าไปในข้อต่อแหวนยาง
7. ใช้แรงงานหรือคานงัดเพื่อดันปลายท่อเข้าไปในข้อต่อแหวนยางให้ถึงเครื่องหมายบนท่อที่ทำไว้ตามข้อ 3(ไม่ควรใช้เครื่องจักรดันเพราะจะทำให้ปลายท่อปากระฆังแตกได้ง่าย)
8. ทำตามขั้นตอนที่ 1 ถึง 7 ไปเรื่อยๆจนแล้วเสร็จ
วันพุธที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2567
อุปกรณ์ซ่อมท่อ HDPE
2. Repair Clamp แบบเหล็กเหนียวเคลือบอีพ๊อกซี่ ราคาปานกลาง ซ่อมได้ง่าย เหมือนกับแสตนเลส จับแน่นเนื่องจากออกแบบมาพิเศษ อายุการใช้งานน้อยกว่าแสตนเลส
3. Repair Clamp แบบท่อ HDPE ราคาถูกแต่ซ่อมได้ยาก หลุดลื่นได้ง่าย
วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2567
วิธีการต่อท่อ HDPE
วันจันทร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2567
อุปกรณ์ในการต่อท่อพีอี(HDPE)แบบหน้าจาน
1. ชุดข้าง ใช้สำหรับประสานท่อพีอีกับอุปกรณ์ท่อ เช่น สามทางหน้าจาน ท่อลด ประตูน้ำ ฯลฯ ประกอบด้วย
1. หน้าแปลนพีอี (Stub End) 1 ตัว
2. แหวนเหล็กเหนียว (Backing Ring) 1 ตัว
3. สกรู 1 ชุด
4. ประเก็นยาง 1 แผ่น
2. ครบชุด ใช้สำหรับประสานท่อพีอีกับท่อพีอี เช่น ท่อชั้นคุณภาพไม่เท่ากัน ต่างโรงงาน ซ่อมท่อ ฯลฯ ประกอบด้วย
1. หน้าแปลนพีอี (Stub End) 2 ตัว
2. แหวนเหล็กเหนียว (Backing Ring ) 2 ตัว
3. สกรู 1 ชุด
4. ประเก็นยาง 1 แผ่น
อุปกรณ์ที่ใช้มีดังต่อไปนี้
1. Stub End ทำมาจากท่อหนาแล้วไปกลึงขึ้นรูป หรือหล่อให้ได้มิติตามมาตรฐาน ก่อนสั่งซื้อต้องระบุให้ชัดว่าเป็นชั้นความดัน(PN)อะไร,ชั้นคุณภาพเท่าใด PE 80 หรือ PE 100 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพท่อ HDPE ที่ใช้
2. Backing Ring ตามมาตรฐานของกปภ. ระบุว่าต้องทำมาจาก Ductile Iron แต่โดยทั่วไปโรงงานผลิตท่อ HDPE มักจะใช้เป็นเหล็กเหนียว ดังนั้น ก่อนสั่งซื้อต้องระบุให้ชัดว่าเป็นเหล็กหล่อหรือเหล็กเหนียว
3.สลักเกลียวและแป้นเกลียว ตามมาตรฐานของกปภ. ระบุว่าต้องทำมาจาก Ductile Iron ขนาดและความยาวของสลักเกลียวขึ้นอยู่กับขนาดของท่อและชั้นคุณภาพท่อด้วย อีกทั้งต้องระบุให้ชัดว่าใช้แบบชุดข้างหรือแบบครบชุด ปัญหาที่เจอบ่อยคือ ความยาวของสลักเกลียวไม่เพียงพอ คือใช้กับชุดข้างได้แต่ใช้กับแบบครบชุดไม่ได้
4. ประเก็นยาง ประเก็นยางของท่อพีอีจะใช้แบบ”หูยก”ไม่ต้องมีรูเหมือนกับประเก็นยางหน้าจานแบบงานท่อพีวีซี หรือท่อเหล็กเหนียว
วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2567
ทำไมต้องใช้ Ductile Cast Iron ในงานวางท่อ HDPE
วันเสาร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2567
ค่าแรงในการเชื่อมท่อ HDPE
วันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2567
ทำไมต้องใช้ท่อ HDPE เป็นท่อน้ำดื่ม
- ชั้นคุณภาพที่ 1 โพลีเอทิลีน (HDPE 63) ไม่นิยมใช้ คุณภาพต่ำ
- ชั้นคุณภาพที่ 2 โพลีเอทิลีน (HDPE 80) นิยมใช้ คุณภาพปานกลาง
- ชั้นคุณภาพที่ 3 โพลีเอทิลีน (HDPE 100) นิยมใช้ คุณภาพดีสุด
คุณสมบัติเด่นของท่อ HDPE สำหรับใช้เป็นท่อน้ำดื่มในงานประปา ด้วยเหตุผลดังนี้
- ไม่เป็นสนิม ทนการกัดกร่อน จากเคมี เป็นวัสดุทึบแสง ไม่มีสารปนเปื้อน
- อายุการใช้งานยาวนานถึง 50 ปี
- การติดตั้งทำได้ง่ายโดยเชื่อมด้วยแผ่นความร้อน
- เลือกใช้ได้ตามแรงดันที่ต้องการเนื่องจากทนแรงดันได้ถึงสูงถึง 25 บาร์
- มีน้ำหนักเบา ขนส่งได้สะดวก
- มีความยืดหยุ่น ขณะขุดวางทำได้ง่าย กว่าท่อเหล็กและท่อพีวีซี
แต่อย่างไรก็ตาม ท่อ HDPE มีข้อเสีย กล่าวคือ ถ้าหาก แตก ชำรุด แล้วการซ่อมจะทำได้อยากกว่าท่อพีวีซีและท่อเหล็ก เนื่องจากต้องใช้เครื่องเชื่อมสำหรับเชื่อมท่อพีอีเท่านั้น
วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2567
ข้อห้ามและไม่ควรทำในการวางท่อประปา
1. ห้ามใช้ลวดสลิงหรือโซ่ในการยกท่อประปา
2. การวางท่อประปาในทางเท้า/ถนน ควรใช้ทรายหยาบกลบไม่ควรใช้ทรายด้อยคุณภาพ(ขี้เป็ด) เพราะเมื่อทรายเจอะฝนตกภายหลังจะทำให้ทางเท้าหรือถนน ทรุดตัว และเสียหายแก่ส่วนรวม
3. ห้ามวางท่อประปาโดยเด็ดขาด กรณีตรวจพบว่าในร่องท่อมีเศษคอนกรีต หิน กรวด
4. ไม่ควรวางท่อประปาในช่วงสั้นๆ เช่น เว้นท่อตามซอยต่างๆ เนื่องจากสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากๆๆ
5. ห้ามใช้เครื่องจักรดันปลายท่อเพื่อต่อท่อในแต่ละท่อนโดยตรง เพราะแรงดันจากเครื่องจักรจะทำให้ท่อแตกเสียหายได้ง่าย
วันพุธที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2567
ขั้นตอนในการวางท่อประปา
1. สำรวจและกำหนดแนวขุดวางท่อประปาให้ชัดเจน และตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
2. ตีเส้นให้ชัดเจนและใช้เครื่องตัดคอนกรีตตามแนวท่อให้ลึกประมาณ 5 เซนติเมตร (ถ้ามี)
3. ทุบคอนกรีตตามแนวขุดวางท่อประปา(ถ้ามี)
- กรณีเป็นทางเท้าหน้าบ้าน ใช้รถแบคโฮชนิดติดตัวแย๊กเนื่องจากการวางท่อในเมืองมักจะเจอคอนกรีต 2 ชั้น การใช้รถแบคโฮจะเหมาะสมกว่า
- หากเป็นถนนช่วงยาวๆควรใช้รถทุบคอนกรีตเพราะจะเร็วกว่าการใช้หัวแย๊ก
- การใช้เครื่องลมแย๊กควรใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น เนื่องจากสิ้นเปลืองค่าแรงและทำงานได้ช้า
5. ใช้แรงงานหรือเครื่องจักรขุดร่องดินให้ได้ความลึกหลังท่อตามกำหนดและความกว้างห่างจากข้างท่อข้างละไม่น้อยกว่า 0.15 เมตรหรือตามความเหมาะสมเพื่อให้เครื่องบดอัดสามารถทำงานได้
6. ใช้แรงงานช่วยปรับดิน(หรือทรายหากในโครงการกำหนดให้กลบด้วยทราย)ในร่องท่อให้ได้ระดับ และต้องระวังไม่ให้มีเศษคอนกรีต ก้อนหิน กรวด อยู่ในแนวร่องท่อ หากมีต้องเก็บออกจากร่องท่อให้หมด
7. ก่อนยกท่อประปาลงร่องดินต้องตรวจสอบท่อว่าไม่แตก รั่ว ชำรุดเสียหาย จากนั้นจึง
- ใช้แรงงานคนยกท่อประปาขนาด 100 – 250 มม.
- ใช้เครื่องจักรพร้อมสายพานยกท่อ ขนาด 300 – 400 มม.
8. ก่อนการต่อท่อแต่ละท่อนต้องทำความสะอาดบริเวณข้อต่อ ,ภายในท่อแต่ละท่อนให้สะอาดเสียก่อน
9. กลบหลังท่อ,ข้างท่อด้วยทราย ประมาณ 0.15 ม. โดยรอบหากในโครงการระบุให้ใช้(หากไม่ระบุให้ใช้ดินร่วนกลบแทน) ต้องอัดและกระทุ้งดิน/ทรายให้แน่น ซึ่งต้องระวังไม่ให้เกิดอันตรายกับท่อที่วางไว้แล้ว โดยทำการบดอัดหลังท่อเป็นชั้นๆจนถึงระดับชั้นผิวทางเดิม
10. เมื่อเลิกหรือหยุดงานในแต่ละวัน จะต้องอุด/ปิดปลายท่อ เพื่อป้องกันเศษขยะ ดิน ไหลเข้าไปในท่อ
11. ทำการทดสอบแรงดันน้ำในเส้นท่อเป็นช่วงๆ ความยาวที่ทดสอบกำหนดขณะก่อสร้าง
12. ทำการซ่อมผิวทางหรือทางเท้าคืนตามสภาพเดิม
วันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2567
เตรียมการก่อนวางท่อประปา
1. ก่อนวางท่อประปาต้องตรวจสอบอุปกรณ์ท่อล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7วัน
2. ทำหนังสือแจ้งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแจ้งให้ทราบหรือร่วมตรวจสอบแนวที่จะขุดวางท่อประปา
3. จัดเตรียมอุปกรณ์ความปลอดภัยให้พร้อม เช่น ป้ายเตือน ไฟไซเรน ธงเซฟตี้ กรวยยาง
4. จุดเริ่มต้นการวางท่อควรใกล้แหล่งน้ำมากที่สุดก่อนเพื่อสะดวกต่อการเติมน้ำเข้าท่อเพื่อทดสอบ
วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2567
ขั้นตอนการเชื่อมท่อ HDPE
ขั้นตอนที่ 1 เลือกใส้ประกับให้เหมาะสมกับขนาดท่อ ขันน๊อตยึดแคล้มป์ให้แน่นเพื่อรัดท่อพร้อมจับท่อให้อยู่ในแนวเส้นตรง โดยให้ปลายท่อยื่นออกจากแคล้มป์ประมาณ 30 -50 มม. และให้เหลื่อมกันไม่เกิน 10 % ของความหนาท่อ
ขั้นตอนที่ 2 ใส่ตัวปาดหน้าท่อระหว่างปลายท่อทั้งสองด้าน เดินเครื่องตัวปาดหน้าท่อ ค่อยๆเลื่อนปลายท่อเข้าหาตัวปาดหน้าท่อโดยใช้ระบบไฮโดรลิคควบคุม และจะต้องให้ใบมีดปาดหน้าท่อทั้งสองด้านให้เรียบเสมอกัน
ขั้นตอนที่ 3 ใส่แผ่นความร้อนระหว่างปลายท่อทั้ง 2 ด้าน ใช้แรงดันจากปั๊มไฮโดรลิคดึงปลายท่อทั้ง สองด้านเข้าชนกับแผ่นความร้อนจนกระทั่งปลายท่อทั้งสองด้านเริ่มละลายเป็นตะเข็บกว้างโดยใช้ระยะเวลาตามค่าพารามิเตอร์ที่คำนวณหรืออ่านได้จากเครื่องดาต้าล๊อคเกอร์
ขั้นตอนที่ 4 เลื่อนปลายท่อออกจากแผ่นความร้อนและยกแผ่นความร้อนออก เลือนปลายท่อเข้าหากันโดยใช้แรงงดันเชื่อมและระยะเวลาเชื่อมตาม ค่าพารามิเตอร์ที่คำนวณหรืออ่านได้จากเครื่องดาต้าล๊อคเกอร์
ขั้นตอนที่ 5 เมื่อเชื่อมท่อเสร็จแล้วให้ถอดแค้มป์ออก และเลื่อนท่อออกจากเครื่องเชื่อม จากนั้นจึงเชื่อมท่อนถัดไป
วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2567
ปัญหาในงาน Horizontal Directional Drilling
วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2567
การวางท่อเหล็กเหนียวโดยต่อท่อแบบใช้ Mcanical Coupling
การวางท่อเหล็กเหนียวชนิดใต้ดิน โดยต่อท่อแต่ละท่อนด้วย Mcanical Coupling เมื่อเปรียบเทียบกับการต่อด้วยหน้าจานเหล็กเหนียวตาดี พบว่าการทำงานด้วยวิธีนี้จะเร็วกว่ากันมาก และมีความยืดหยุ่นต่อการทำงานมากกว่าโดยสามารถเบนซ้าย-ขวา หรือ บน-ล่าง ประมาณ 10 องศา ได้โดยไม่รั่ว ขณะที่การต่อแบบหน้าจานทำได้ยาก
แสดงการวางท่อและต่อท่อด้วย Mcanical Coupling
การต่อท่อด้วย Mcanical Coupling มีวิธีการทำงานดังนี้
1. ขุดร่องดินจนได้ความลึกตามต้องการ
2. ใช้แรงงานปรับบดอัดดินในร่องดินให้ได้ระดับ
3. วัดระยะความยาวปลายท่อท่อนที่ 1 ว่าอยู่ตรงจุดไหน เมื่อได้แล้วให้ขุดหลุมให้ลึกจากระดับท้องท่อท่อนที่ 1 ประมาณ 30 ซม. โดยให้ห่างจากปลายท่อท่อนที่ 1 และ 2 ข้างละ 50 ซม.
4. ยกท่อท่อนที่ 1 โดยใช้สายพานยกท่อลงในร่องดิน
5. ทำความสะอาดปลายท่อท่อนที่ 1 โดยใช้ผ้าเช็ดให้สะอาดทั้งภายนอกและภายใน
6. ประกอบแหวนข้าง ชิ้นที่ 1 และตามด้วยแหวนยางชิ้นที่ 1 โดยใช้มือดันเข้าไปห่างจากปลายท่อประมาณ 10 ซม.
7. ยกท่อท่อนที่ 2 ลงในร่องดินที่ขุดเตรียมไว้แล้ว ทำความสะอาดปลายท่อท่อนที่ 2 โดยใช้ผ้าเช็ดให้สะอาดทั้งภายนอกและภายใน
8. ประกอบแหวนข้าง ชิ้นที่ 2 , แหวนยางชิ้นที่ 2 , และแหวนข้างตามลำดับ โดยใช้มือดันแหวนกลางโผล่จากปลายท่อท่อนที่ 2 ประมาณ 5 ซม.
9. ใช้รถยกท่อท่อนที่ 2 ให้พ้นจากระดับดินเล็กน้อยแล้วใช้แรงงานจับปลายท่อท่อนที่ 2 ค่อยๆดันท่อท่อนที่ 2 เข้าไปหาท่อท่อนที่ 1 โดยใช้แหวนกลางเป็นตัวบังคับ โดยให้ปลายท่อระหว่างท่อนที่ 1 กับท่อท่อนที่ 2 ห่างกันไม่เกิน 5 มม.
10. ใช้ประแจหรือบล๊อคลมขันน๊อตทุกๆตัวให้แน่น
11. ทำตามลำดับที่ 3 ถึง 9 จนเสร็จ
12. เมื่อวางได้ความยาวพอประมาณให้ปิดหน้าจานตาบอดเพื่อเติมน้ำและทดสอบน้ำต่อไป
วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2567
วิธีดันท่อปลอกลอดถนน (pipe jacking)
1. ขุดหลุมเปิดบ่อรับกว้างไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร ยาวไม่น้อยกว่า 6.00 เมตรและลึกโดยประมาณ 3.50 เมตร โดยให้ตอกเหล็กค้ำยันจนถึงดินแข็ง
2. แต่งก้นหลุมให้เรียบร้อยจนได้ระดับ
3. วางรางเหล็กที่มีความยาวใกล้เคียงกับขนาดของความยาวหลุม โดยให้ปลายรางข้างหนึ่งแตะชิดกับเสาค้ำยัน
4. ติดตั้งเครื่องมือดันท่อในตำแหน่งเดียวกับรางเหล็ก และตั้งกระบอกไฮโดรลิคโดยยึดกับรางเหล็กให้มั่นคง
5. วางท่อปลอกความยาวประมาณ 3 เมตร ลงในตำแหน่งเดียวกับรางเหล็ก
6. ใช้แผ่นเหล็กรองระหว่างปลายท่อปลอกกับแกนกระบอกไฮโดรลิคแล้วจึงเริ่มทำการดัน (ในระหว่างดันท่อได้พอประมาณใช้รถแบคโฮตักดินขึ้นจากหลุม)
7. เมื่อทำการดันท่อปลอกจมดินจนเหลือปลายโผล่พอประมาณ 40 ซม. ให้ถอยแกนของกระบอกโฮโดรลิคแตะชิดกับเสาค้ำยัน
8. วางท่อปลอกท่อนใหม่(ความยาว 3 เมตร)เชื่อมต่อท่อปลอกที่ดันไปแล้วเข้าด้วยกันโดยรอบและต้องเช็คระดับน้ำให้ได้ระดับ แล้วจึงทำการดันต่อ
9. ทำตามขั้นตอนที่ 5 – 8 จนสิ้นสุดการดันท่อตามแบบแปลน
10. ทำการวางท่อไส้(ท่อลอด) ตามแบบแปลนโดยให้ปลายทั้งสองด้านอยู่ในแนวระดับกับท่อเดิมหรือท่อวางใหม่ให้มากที่จุด
11. อุดปลายท่อปลอกทั้งสองด้านด้วยปูนทรายให้ปิดสนิทเพื่อกันดินไหลเข้าไปในท่อปลอกซึ่งจะทำให้ดินบริเวณที่ดันลอดทรุดและยุบตัวได้
*** ควรเปิดบ่อรับด้วยเพื่อมิให้ชนท่อเดิม(ถ้ามี)
วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2567
การเลือกท่อพีวีสำหรับใช้งานวางท่อประปา
โดยทั่วไปท่อ PVC จะมีหลายชั้นคุณภาพ เช่น ชั้น 5 ชั้น 8.5 ชั้น 13.5 แต่ในงานวางท่อเมนส่งน้ำและจ่ายน้ำประปาหากแบบไม่ระบุเป็นอย่างอื่น ตามมาตรฐานของการประปาส่วนภูมิภาคระบุให้ใช้ดังนี้
1. ท่อพีวีซี ขนาด เส้นผาศูนย์กลาง < 55 มม. ให้ใช้ชนิดปลายธรรมดา ชั้น 13.5 โดยทั่วไปยาวท่อนละ 4 เมตร อุปกรณ์ท่อใช้อุปกรณ์เป็นพีวีซี ชั้น 13.5 ชนิดปลายเรียบต่อด้วยกาวต่อท่อ
2. ท่อพีวีซี ขนาด เส้นผาศูนย์กลาง 55 - 80 มม. ให้ใช้ชนิดปลายบานต่อด้วยแหวนยาง ชั้น 13.5 โดยทั่วไปยาวท่อนละ 4 เมตร อุปกรณ์ท่อใช้อุปกรณ์พีวีซี ชั้น 13.5 ชนิดต่อด้วยแหวนยาง ใช้น้ำยาหล่อลื่นแหวนยาง
3. ท่อพีวีซี ขนาดเส้นผาศูนย์กลาง > 80 มม. ให้ใช้ชนิดปลายบานต่อด้วยแหวนยาง ชั้น 8.5 โดยทั่วไปยาวท่อนละ 6 เมตร เมื่อเราสั่งซื้อท่อจะมีแหวนยางมาด้วยเสมอ ท่อ 1 ท่อนจะใช้แหวนยาง 1 เส้น ใช้น้ำยาหล่อลื่นแหวนยางเป็นตัวประสานระหว่างท่อแต่ละท่อน อุปกรณ์ท่อใช้อุปกรณ์เหล็กหล่อเทาแบบปลายปากระฆังหรือแบบปลายหน้าจานและต้องได้มาตรฐาน มอก. 918 ด้วย
วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2567
การติดตั้งแอร์วาล์ว (Air Valve)
การติดตั้งแอร์วาล์ว(Air Valve)
งานติดตั้งชุดแอร์วาล์วจะติดตั้งตรงตำแหน่งจุดสูงสุดของแนวท่อ หรือจุดปลายของตำแหน่งสะพานรับท่อมีวัตถุประสงค์เพื่อระบายอากาศในเส้นท่อ
ปัญหาที่เจอบ่อยคือ
1. พบว่าบางจุดในแบบแปลนไม่มีตำแหน่งติดตั้งแอร์วาล์วเมื่อวางท่อแล้วเสร็จน้ำประปาจะไม่ไหลเนื่องจากมีลมในเส้นท่อ ทำให้ต้องแจ้งผู้ควบคุมงานเพื่อคิดค่างานเพิ่มและต้องมาติดตั้งอีกครั้ง
2. ขณะติดตั้งแอร์วาล์วเสร็จเนื่องจากดินยังไม่แน่นเมื่อติดตั้งบ่อ คสล.เสร็จและทิ้งช่วงเวลาไม่นานบ่อ คสล.จะทรุดและเอียงทำให้ไปกดเสาแอร์วาล์วและสามทางแตกหรือฉีกขาดในที่สุด ดังนั้น ควรกดเสาเข็มไม้ไว้ที่สามทางตัวล่างและทั้งสี่มุมของบ่อ คสล.
วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2567
การต่อท่อพีอีที่มีความหนาไม่เท่ากัน
ในงานวางท่อพีอีท่อจะมีความหนาแตกต่างกันตามชนิดของ PN ท่อพีอีที่มี PN สูงความหนาก็จะมีมากตามไปด้วย ในกรณีที่จำเป็นต้องต่อท่อพีอีที่มีความหนาต่างกัน (PN ต่างกัน) เช่นในกรณีที่ท่อพีอีเดิมที่วางไว้แล้วเป็นท่อ PN 6 ต่อกับท่อพีอี ที่ต้องการวางใหม่เป็น PN 10 การต่อท่อพีอีลักษณะดังกล่าว จะต้องต่อด้วยแบบหน้าจาน (ใช้สตับเอ็นและแบคกิ้งริง) เนื่องจากไม่สามารถทำการเชื่อมชนได้เพราะความหนาต่างกันทำให้พื้นที่หน้าตัดท่อเหลี่ยมกันมากเมื่อเชื่อมแล้วท่อพีอีจะใช้งานได้ไม่นานก็จะแตกเสียหายได้
ปัญหาที่ความหนาท่อพีอีไม่เท่ากันสามารถเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ได้แก่
1. ท่อที่ผลิตจากโรงงานไม่ได้มาตรฐานมีลักษณะเบี้ยวไม่กลมและมีความหนาไม่เท่ากัน ดังนั้นก่อนการเชื่อมท่อพีอีต้องตัดท่อที่มีลักษณะดังกล่าวออกเสียก่อน เพื่อจะให้ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง
2. ท่อพีอีที่ใช้ความดันที่สูงเมื่อใช้งานไประยะหนึ่งแล้ว ท่อพีอีจะมีขนาดโตกว่ามาตรฐานเล็กน้อยประมาณ 3-5% ของความหนาท่อ เช่น ขนาดมาตรฐาน OD500 มม.เมื่อใช้งานไปสักระยะหนึ่งจะมีขนาด OD501 มม. ดังนั้นในการต่อท่อพีอีเดิมกับท่อพีอีใหม่ต้องต่อท่อพีอีด้วยหน้าจานเท่านั้น
วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2567
การวางท่อเหล็กเหนียวใต้ดินแบบต่อท่อด้วยหน้าจาน
วันอังคารที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2567
การเลือกวิธีงานดันท่อลอด
งานท่อลอดถนนโดยทั่วไปมี 2 วิธี ได้แก่ PIPEJACKING และ Horizontal Directional Drilling
1. PIPEJACKING เป็นการดันท่อปลอกเหล็กโดยการดันท่อและเชื่อมต่อท่อเป็นท่อนๆละประมาณ 3 ถึง 6 เมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ก่อสร้างด้วย แบ่งเป็น 2 ประเภท
1.1 การดันท่อปลอกเหล็กโดยอาศัยแม่แรงโฮโดรลิคดันท่อปลอกเหล็กโดยตรง การดันด้วยวิธีนี้การทำงานจะทำได้ค่อนข้างช้าใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ไม่มากนัก
1.2 การดันท่อปลอกเหล็กโดยอาศัยใบเจาะ (Auger) เจาะดินออกมา การดันท่อด้วยวิธีนี้จะทำได้เร็วมากแต่จะใช้เครื่องมือและอุปกรณ์มากตามไปด้วย
ข้อดี ของการดันท่อลอด
1. ต้องการพื้นที่ในการทำงานไม่มาก
2. เหมาะกับพื้นที่ที่มีสาธารณูปโภค ต่างๆก่อนแล้ว
ข้อเสีย ของการดันท่อลอด
1. ไม่สามารถดันท่อได้ยาวมากนัก
2. ควบคุมทิศทางในการดันได้ยาก ไม่แน่นอน ต้องใช้ผู้ที่เชียวชาญโดยเฉพาะ
2. Horizontal Directional Drilling เป็นการเจาะดึงท่อเหล็ก,HDPE
ข้อดี ของHorizontal Directional Drilling (HDD)
1. ไม่จำเป็นต้องเปิดบ่อก่อสร้าง
2. เหมาะกับการวางท่อที่มีระยะยาวมากกว่า 100 เมตรขึ้นไป
3. สามารถกำหนดความลึกและทิศทางของปลายท่อได้แม่นยำ
ข้อเสีย ของHorizontal Directional Drilling (HDD)
1. ใช้พื้นที่ในการทำงานมาก
2. ก่อนการดึงท่อจะต้องเชื่อมท่อให้มีความยาวต่อเนื่องเท่ากับความยาวที่ต้องการทั้งหมด
วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2567
การทดสอบแรงดันน้ำ(Pressure Test) ในเส้นท่อ
ในงานวางท่อประปาจะประกอบด้วยงานขุดวางและงานทดสอบแรงดันน้ำ(Pressure Test) ในเส้นท่อ และนับว่าเป็นส่วนที่สำคัญรองจากงานวางท่อ ซึ่งขณะวางท่อต้องวางแผนการทดสอบน้ำตามจุดที่ขุดวางท่อตามไปด้วย ไม่ควรปล่อยไว้ยาวๆแล้วจึงทดสอบ เพราะว่ามีปัญหามากๆ การทดสอบแรงดันในเส้นท่อเป็นการทดสอบการรั่วซึมของข้อต่อว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้หรือไม่ โดยยึดถือปริมาณการรั่วซึมสูงสุดที่ยอมให้เป็นเกณฑ์ ซึ่งได้มาจากการคำนวณหรือกราฟ ในงานทดสอบแรงดันน้ำในเส้นท่อปกติต้องเติมน้ำในเส้นท่อไว้ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง แล้วจึงทำการทดสอบความดันน้ำ สำหรับอุปกรณ์ที่สำคัญขาดเสียมิได้นั้นก็คือ
1. เกจวัดความดัน (Pressure Gage) สำหรับอ่านค่า ซึ่งก่อนการใช้งานต้องปรับตั้งค่าให้เที่ยงตรงก่อน
2. เกตุวาล์วสำหรับควบคุมการปล่อยน้ำเข้าและจ่ายน้ำออกตามขั้นตอนของการทดสอบ พร้อมทั้งติดตั้งจุดระบายอากาศที่ต้นทาง
3. มาตรสำหรับวัดปริมาตรน้ำที่เติมเข้าไปและปล่อยออกตามขั้นตอนแต่ละช่วงของการทดสอบ
4. ที่ตำแหน่งปลายท่อต้องติดตั้งจุดระบายอากาศ หรือจุดอื่นๆที่จำเป็น กรณีท่อที่ทดสอบนั้นเปลี่ยนแปลงระดับมาก
ตัวอย่างจุดทดสอบแรงดันน้ำในเส้นท่อ
วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2567
การติดตั้งเสา คสล.รับท่อเหล็ก
- แนวในการก่อสร้างเสา คสล. รับท่อเหล็ก จะต้องก่อสร้างให้ชิดแนวเขตทางมากที่สุด เนื่องจากในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีการขยายเขตวางท่อประปาเพิ่มเติม จะได้มีพื้นที่ในการก่อสร้างเพิ่มเติมได้ จะสังเกตุได้หลายพื้นที่มีเสารับท่อ คสล. หลายขนาด พื้นที่ในการวางท่อใหม่แทบจะไม่มี
- ตำแหน่งของเสา คสล. รับท่อจะต้องอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับเสาตอม่อของสะพานข้ามคลอง เพื่อป้องกันไม่ให้ขวางทิศทางการไหลของน้ำ
- ระดับของเสา คสล.รับท่อเมื่อติดตั้งท่อเหล็กแล้วระดับท้องท่อเหล็กจะต้องสูงไม่น้อยกว่าท้องสะพานข้ามคลอง
ตัวอย่างเสา คสล.รับท่อเหล็กขนาด 400-600 มม. https://youtu.be/FXHaQneXHIg
ตัวอย่างเสา คสล.รับท่อเหล็กขนาด 200-300 มม.
https://youtu.be/WR75XdYL41A
ตัวอย่างเสา คสล.รับท่อเหล็กขนาด 100-150 มม.
https://youtu.be/D2GmydEwz0w
วันศุกร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2567
วิธีตรวจสอบค่าน้ำประปาสูงผิดปกติ
ปกติแล้วการใช้น้ำประปาตามบ้านพักอาศัยทั่วๆไปเฉลี่ยคนละ 200 ลิตรต่อวัน ใน 1 เดือนการใช้น้ำประมาณ 6000 ลิตรต่อ 1 คน ดังนั้นค่าน้ำประปาสำหรับบ้านพักอาศัยราคาประมาณ คิวละ 12 บาท (น้ำ 1 คิวมีค่าเท่ากับ 1000 ลิตร) หรือประมาณลิตรละ 12 สตางค์ ดังนั้นการใช้น้ำทั้งเดือนประมาณคนละ 72 บาท เมื่อรวมค่าบริการอีก 50 บาท 1 เดือนเราจะใช้น้ำประปาประมาณ 100 บาท
ซึ่งเราจะเห็นข่าวบ่อยๆที่ค่าน้ำประปาสูงผิดปกติเกินจริง ดังนั้นเราต้องหมั่นตรวจสอบมิเตอร์น้ำทุกๆสัปดาห์ก็จะลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้ แต่ถ้าหากพบว่าใบแจ้งหนี้ค่าน้ำประปาผิดปกติให้ตรวจสอบดังนี้
1. ให้ปิดก๊อกน้ำทุกตัวภายในบ้าน(หลังจากมาตรวัดน้ำ)
2. ถ้าพบว่ามิเตอร์น้ำยังหมุนแสดงว่าท่อภายในของเราชำรุด
3. ปิดมิเตอร์น้ำไว้ก่อนและรีบดำเนินการซ่อมเนื่องจากค่าใช้จ่ายส่วนนี้เจ้าของบ้านต้องรับผิดชอบเองทั้งหมดครับ
-
ในการเชื่อมท่อ HDPE นั้น ผู้ที่เชื่อมได้ต้องผ่านการฝึกอบรมการเชื่อมท่อ HDPE ให้เกิดความชำนาญและเข้าใจวิธีการเชื่อมที่ถูกต้อง ซึ่...
-
วิธีดันท่อปลอกลอดถนน (pipe jacking) ขั้นตอนในการทำงานมีดังนี้ 1. ขุดหลุมเปิดบ่อรับกว้างไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร ยาวไม่น้อยกว่า 6.00 เมตรและลึ...
-
ท่อเหล็กเหนียวที่ใช้ในงานประปาของการประปาส่วนภูมิภาคนั้นจะใช้ตาม มอก. 427 “ท่อเหล็กกล้าเชื่อมด้วยไฟฟ้าสำหรับส่งน้ำ” ชั้น คุณภาพ ข. หรือ ค...